" ทางเลือกใหม่ สำหรับการให้ออกซิเจน แบบไม่ต้องนำไปเติม "






" โปรโมชั่นถังออกซิเจนเหล็ก และ ถังออกซิเจนพกพา อลูมิเนียม "
ขนาด 0.5 คิว / 1.5 คิว
แบบเหล็ก ราคา 4,400 / 4,900 บาท
แบบอลูมิเนียม ราคา 5,400 / 7,900 บาท
" อุปกรณ์ครบชุด
พร้อมใช้งาน "
" โปรโมชั่นถังออกซิเจนประจำเดือน"




ยินดีต้อนรับสู่ร้าน  Tankoxygen - จำหน่ายถังออกซิเจน และอุปกรณ์การแพทย์ ทางร้านจำหน่ายสินค้าเท่านั้น(ไม่รับเติมก๊าซ หรือ รับปลี่ยน) คุณสามารถเลือกชมสินค้าที่เราคัดสรรมาให้ได้เลยทันที หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวสินค้า สามารถติดต่อเราได้ทางปุ่มติดต่อ-สอบถามมุมขวาล่าง

ที่ตั้งร้าน
29 ซอย บรมราชชนนี 4 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700 (ก่อนถึงเซนทรัลปิ่นเกล้า)

ถังออกซิเจน สำคัญอย่างไร ?
      ถังเหล็กที่มีการบรรจุก๊าซออกซิเจนลงไป ส่วนใหญ่จะใช้ในทางการแพทย์ และเป็นวิธีที่ใช้เพิ่มปริมาณออกซิเจนในปอดและกระแสเลือด ใช้สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอหรือมีภาวะขาดออกซิเจน (Hypoxemia) เช่น ผู้ป่วยโรคปอดบวมโรคมะเร็งปอด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง กลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน รวมถึงผู้ป่วยโรคโควิด-19 ปัจจุบัน ผู้ป่วยสามารถใช้อุปกรณ์ให้ออกซิเจนบำบัดได้ทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน โดยในถังออกซิเจนจะมีก๊าซออกซิเจนบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นอยู่ถึง 99 % ซึ่งความเข้มข้นของก๊าซออกซิเจนในถังจะเป็นตัวช่วยในการรักษาผู้ป่วยทำให้ออกซิเจนในเลือดของผู้ป่วยอยู่ในระดับที่เหมาะสม นับว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก


 ข้อดี 

  • มีค่าความบริสุทธิ์ของออกซิเจนสูง ความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 99%
  • ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ไม่เปลืองค่าไฟ
  • สามารถใช้งานขณะเดินทางหรือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้
  • สามารถเติมก๊าซออกซิเจนได้ ไม่ต้องซื้อถังใหม่
  • สามารถให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย ในอัตราที่มีความสม่ำเสมอ

ถังออกซิเจนผู้ป่วย มีกี่ขนาด ?

ถังออกซิเจนมีอยู่หลักๆ 4 ขนาดคือขนาด 0.5 คิว, 1.5 คิว, 2 คิว, และขนาด 6 คิว โดยขนาดของถังออกซิเจนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของระยะเวลาการให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย ถ้าถังออกซิเจนมีขนาดเล็ก ระยะเวลาในการให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยก็จะสั้น แต่ถ้าเป็นถังออกซิเจนขนาดใหญ่ ระยะเวลาในการให้ออกซิเจนก็จะนานขึ้นและที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นถังออกซิเจนพกพา ซึ่งราคาถังออกซิเจนก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดและความต้องการใช้งาน

สิ่งที่ต้องระวังในการใช้ถังออกซิเจน

  • ระวังถังออกซิเจนได้รับการกระแทก เพราะถ้าหากถังออกซิเจนได้รับแรงกระแทกที่รุนแรง อาจทำให้ถังออกซิเจนเกิดการระเบิดได้
  • ระวังสิ่งที่ทำให้เกิดความร้อนหรือเปลวไฟบริเวณใกล้กับถังออกซิเจน เช่น เปลวไฟจากการสูบบุหรี่ ความร้อนจากไดร์เป่าผม เครื่องรีดผม แผ่นทำความร้อนหรือมีดโกนไฟฟ้า
  • ระวังอย่าใช้สเปรย์ฉีด เช่น สเปรย์ปรับอากาศ สเปรย์ฉีดผม ใกล้กับชุดจ่ายออกซิเจน
  • ระวังอย่าใช้เจลแอลกอฮอล์ก่อนหยิบจับอุปกรณ์ให้ออกซิเจน ถ้าจะให้ดีควรปล่อยให้มือแห้งก่อนแล้วค่อยหยิบจับ

 ข้อควรรู้ก่อนใช้ถังออกซิเจน 
  • ถังออกซิเจนที่ใช้ในทางการแพทย์ต้องบรรจุในถังสีเขียวเท่านั้น และต้องมีสัญลักษณ์ มอก.540-2555
  • ข้อต่อของถังออกซิเจนต้องใช้เกลียวที่ได้มาตรฐาน CGA 540 เท่านั้น
  • โดยปกติแล้ว ก๊าซออกซิเจนไม่ติดไฟ แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ไฟลุกไหม้รวดเร็วขึ้นได้ หากมีถังออกซิเจนเก็บไว้ที่บ้าน ควรมีถังดับเพลิงติดตั้งเอาไว้ด้วยเช่นกัน
  • หัวปรับลดแรงดัน ต้องเป้นหัวสำหรับถังออกซิเจนทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามดัดแปลงนำหัวอื่นๆมาใช้งาน
  • หากถังออกซิเจนขึ้นสนิม ไม่ควรใช้งาน
ถังออกซิเจนเหล็กเกรดทางการแพทย์
  • ถังออกซิเจนเหล็กเกรดทางการแพทย์ได้รับมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ออกซิเจนการแพทย์ มาตรฐานเลขที่ มอก. 540-2527
  • ก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์จะนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถหายใจได้อย่างปกติเพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
  • เนื่องจากถังออกซิเจนเหล็กค่อนข้างมีน้ำหนักมากจะใช้กับรถเข็นถังออกซิเจนเพื่อช่วยในการเคลื่อนย้าย
  • มักใช้งานในสถานพยาบาล รถพยาบาลหน่วยฉุกเฉิน ภายในบ้าน และเป็นที่ต้องการเฉพาะอย่างยิ่งในโดยระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
 ถังออกซิเจนแบบพกพา อลูมิเนียม
  • ถังออกซิเจนแบบพกพา ได้รับมาตรฐานสากล : ISO 7866 : 2012 , CE Mark มาตรฐานด้านความปลอดภัย : ALSAFE (มาตรฐานโรงงาน)
  • ถังออกซิเจนแบบพกพา อลูมิเนียมมีน้ำหนักเบาจึงพกพาได้ง่าย ราคาย่อยเยา
  • มักใช้ในรถพยาบาลหน่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลและบ้าน
  • เหมาะสำหรับเวลาฉุกเฉินระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
อุปกรณ์ถังออกซิเจน 
   คือ อุปกรณ์ที่ต่อกับ
ถังออกซิเจน
เพื่อให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย ประกอบด้วย
  • ถังออกซิเจน
  • รถเข็นถังออกซิเจน
  • กระเป๋าถังออกซิเจนพกพา
  • เกจ์วัดออกซิเจน
  • กระปุกน้ำให้ความชื้น
  • ข้อต่อเกจ์ออกซิเจน
  • สายให้ออกซิเจน
  • หน้ากากให้ออกซิเจน
  • หน้ากากครอบคอให้ออกซิเจน (คนไข้เจาะคอ)
ถังออกซิเจน กับ เครื่องผลิตออกซิเจนแตกต่างกันอย่างไร?

ถังออกซิเจนกับเครื่องผลิตออกซิเจน แม้จะให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยได้เหมือนกัน แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็มีความแตกต่างกันมากพอสมควร โดยถังออกซิเจนจะใช้สำหรับบรรจุก๊าซออกซิเจนบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้สูงเข้าไปเท่านั้น ไม่สามารถผลิตออกซิเจนได้เอง แต่สามารถให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า แต่สำหรับเครื่องผลิตออกซิเจน จะมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถผลิตออกซิเจนได้เอง ไม่ต้องเติมออกซิเจนใหม่ แต่เครื่องผลิตออกซิเจนจะใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทำให้ต้องเสียบปลั๊กไฟเอาไว้ตลอดเวลา

ถังออกซิเจน

 ข้อดี: 

  • ความเข้มข้นของออกซิเจนสูงกว่าเครื่องผลิตออกซิเจน โดยอยู่ที่ 99%
  • ใช้งานบนรถยนต์ได้ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกกว่าหากเลือกใช้ถังออกซิเจนขนาดเล็ก

ข้อเสีย:

  • สิ้นเปลืองเวลา เนื่องจากต้องคอยเติมออกซิเจนอยู่บ่อยครั้ง
  • เสียค่าใช้จ่ายมาก หากต้องการใช้ในระยะยาว

เครื่องผลิตออกซิเจน

 ข้อดี: 

  • ใช้งานง่ายกว่าถังออกซิเจน
  • สะดวกสบายและประหยัดเวลามากกว่า เนื่องจากไม่ต้องเติมออกซิเจนบ่อยๆ เหมือนการใช้ถังออกซิเจน
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย หากต้องการใช้ในระยะยาว

ข้อเสีย:

  • ใช้งานได้เฉพาะก็ต่อเมื่อมีไฟฟ้า
  • ไม่สามารถใช้งานขณะเดินทางได้ ยกเว้น เครื่องผลิตออกซิเจนขนาดพกพาที่สามารถใช้กับแบตเตอรี่สำรองได้

เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ พกพา คืออะไร ?  ใช้งานง่ายไหม ?

เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ พกพา ถือเป็นอีกทางเลือกในการให้ออกซิเจนผู้ป่วย แต่ในเครื่องแบบพกพา มักจะมีข้อจำกัด ไม่เหมือนเครื่องที่ใช้ภายในบ้าน และมีราคาค่อนข้างสูง หากท่านใดที่ยังไม่ได้เคยใช้งานออกซิเจนมาก่อน แนะนำว่าควรมีเครื่องที่ใช้ภายใน้บานเป็นหลักก่อน แล้วค่อยพิจารณาที่จะดูเครื่องผลิตออกซิเจนพกพา

เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ พกพา แบ่งเป็น 2 ประเภท

 1. แบบจ่ายลมออกซิเจนแบบต่อเนื่อง ( Continous Flow) 
เครื่องจะทำการปล่อยออกซิเจนแบบต่อเนื่องลักษณะคล้ายกับเครื่องใช้งานภายในบ้าน แต่สามารถต่อไฟรถได้ และมีแบตเตอรี่ใช้ในการสแตนบาย
  • เครื่องพกพาชนิดนี้มีข้อจำกัดมากพอสมควร ยกตัวอย่างเรื่องของอัตราการไหลกับความเข้มข้นจะสวนทางกัน เช่น หากปรับอัตราการไหลมากกว่า 1 ลิตร/นาที จาก 1 ลิตร ไปที่ 2-5 ลิตร ออกซิเจนจะดรอปลงตามลำดับแรงลม จนเหลือความเข้มข้นที่ต่ำสุดประมาณ 40%(ที่ 5 ลิตร/นาที) จาก 93+-3% (ที่ 1 ลิตร/นาที)
  • เหมาะกับการใช้งานเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยเน้นการใช้งานไฟภยในรถเป็นหลัก เนื่องจากแบตเตอรี่ใช้ได้ยามฉุกเฉินเท่านั้น จะไม่สแตนบายได้นาน เพราะระบบเครื่องยังกินกำลังไฟพอสมควรเพราะต้องปล่อยออกซิเจนแบบต่อเนื่อง น้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 5-8 กก.
** ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องเคลื่อนไหว ไปมา ลุกเดิน หรือผู้สูงอายุที่อยากจะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน**

 2. แบบปล่อยลมออกซิเจน ตามชีพจร การหายใจของผู้ใช้งาน ( Pulse Dose ) 
เครื่องจะค่อนข้างซับซ้อนกว่ารุ่นแรก ระบบการทำงานค่อนข้างอัจฉริยะ
  • การทำงานของเครื่องลักษณะเป็นระบบ Pulse Dose จะทำการจับชีพจรลมหายใจของผู้ใช้งาน ก่อนจะปล่อยออกซิเจนออกมาในจังหวะผู้ใช้งานหายใจเข้า จะไม่ได้ตามจำนวนลิตร จะขึ้นอยู่กับการใช้งานหายใจช้าหรือเร็ว แต่สามารถ Set ค่าความแรงของลมได้ 1-5 ระดับ 
  • บางรุ่นมีระบบ Smart Dose ปรับแรงลม จากการประเมินลมหายใจของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ
  • ข้อดีของเครื่อง คือผู้ใช้งานจะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
  • น้ำหนักระหว่าง 1-3 กก.ผู้ใช้งานสามารถสะพาย หรือหิ้วเองได้
ถ้าเปรียบเทียบกับเครื่องพกพา แบบ Continous Dose ที่ปล่อยแบบต่อเนื่อง เปรียบสเมือนการเปิดน้ำไหลจากก็อกไหล 1 ลิตร/นาที ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่สามารถดื่มน้ำก็อกได้ตลอด 1 นาที ซึ่งหากเป็นแบบ Pulse Dose เปรียบเสมือนเทน้ำใส่แก้ว แล้วค่อยๆจิบน้ำในแก้วตามที่ต้องการแบบพอดี



ให้ออกซิเจนแบบนี้ ควรซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนแบบไหน ?

ผู้ที่มีอาการเหนื่อยหอบ หรืออาการที่ไม่รุนแรงมาก
สามารถใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนสเปค 3-5 ลิตรได้

  • อุปกรณ์ที่จะใช้เป็นสาย Nasal Cannula สายที่เป็นลักษณะเหมือนหนวดกุ้งสวมจมูก ค่าออกซิเจนที่ได้รับสูงสุด 40%
ผู้ป่วยที่มีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง
สามารถสเปคใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนสเปค 8-10 ลิตร โดยส่วนใหญ่จะใช้ร่วมกับ หน้ากากแบบมีถุงลม Mask With Bag
เพื่อให้ได้ค่าออกซิเจนที่สูงขึ้น 80% ++
  • อุปกรณ์ที่จะใช้เป็น สาย Nasal Cannula สายที่เป็นลักษณะเหมือนหนวดกุ้งสวมจมูก อัตราการไหลปรับได้ที่ 1-5
  • Mask With Bag หน้ากากแบบมีถุงลม ค่าออกซิเจนที่ได้รับสูงสุด 80-90% (อัตราการไหลปรับได้ที่ 8-10 ลิตร)
ผู้ป่วยเจาะคอ
แนะนำเครื่องผลิตออกซิเจนสเปค 10 ลิตรแรงดันสูง 20PSI ขึ้นไป กับผู้ป่วยที่มีเสมหะเหนียวข้นและใส่อุปกรณ์ท่องวงช้างใช้กับกระปุกปรับให้ความชื้น


"เพื่อความปลอดภัย การให้ออกซิเจนควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
เครื่องผลิตออกซิเจนไม่ใช่เครื่องช่วยชีวิต โปรดศึกษาคู่มือให้ละเอียดก่อนใช้งาน"



เช็คด่วน คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่
  • มีอาการนอนกรนเสียงดัง และกรนเป็นประจำแทบทุกคืน
  • บางครั้งมีอาการนอนกรนแล้วหยุดเป็นพักๆ และหายใจแรง หายใจดัง
  • รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ง่วงและอ่อนเพลียระหว่างวัน
  • ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ไม่มีสมาธิ ขี้หลงขี้ลืม
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ขี้เหวี่ยง ขี้วีน
  • ตื่นแล้วรู้สึกไม่สดชื่น บางครั้งมีอาการปวดหัวหลังจากตื่นนอน
  • ความต้องการทางเพศลดลง

STATISTIC

หน้าที่เข้าชม121,212 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด67,160 ครั้ง

หมวดหมู่สินค้า

MEMBER

CONTACT

094-470-6668
เยี่ยมชมสินค้า : Tank Oxygen

29 ซอย บรมราชชนนี 4 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

https://shorturl.asia/ikR8C

                     
ติดต่อสอบถาม
พูดคุย-สอบถาม